ปลดเปลื้องจินตนาการกับภาพวาดโฮโมอีโรติก – Tom of Finland

0
1726

หลายคนคงเคยผ่านตามาบ้างแล้วกับภาพวาดขาวดำที่เป็นชายร่างใหญ่อยู่ในชุดเครื่องแบบหนังรัดรูป อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม พร้อมกับอาวุธประจำกายที่ใหญ่โต โดยผลงานภาพวาดแนวโฮโมอีโรติกนี้เริ่มเป็นที่รู้จักตั้งแต่ช่วงปี 1956-1957 จากฝีมือของบุคคลที่สำคัญอย่างยิ่งในแวดวง LGBTQ+ และเขานั้นเป็นที่รู้จักในชื่อ “Tom of Finland”

Tom of Finland คือนามแฝงของ Touko Valio Laaksonen เขาเกิดเมื่อ 8 พฤษภาคม 1920 ทางตอนใต้ของประเทศ Finland อยู่ในครอบครัวชนชั้นกลางที่พ่อและแม่เป็นคุณครู และนั่นทำให้ Touko นั้นได้เรียนรู้ในเรื่องของวรรรณกรรม ดนตรี และศิลปะจากที่บ้าน

ถึงแม้ในวัยเด็กเขามักจะถูกเลี้ยงดูให้อยู่แต่ในบ้าน แต่ส่วนตัวแล้วเขาก็ชื่นชอบที่จะออกไปสัมผัสกับโลกภายนอกมากกว่า และนั่นทำให้ Touko ในวัยเพียง 5 ขวบได้เจอกับสิ่งเย้ายวนใจเป็นครั้งแรก นั่นก็คือ รูปร่างอันกำยำของเพื่อนบ้านชายหนุ่ม ที่ติดตรึงในชีวิตเขานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

Credit Photo: kookudesign.com

ในวัย 19 ปี Touko ได้ย้ายมาที่เมืองหลวง Helsinki เพื่อศึกษาต่อทางด้าน Advertising ซึ่งในช่วงเวลานี่เองที่จินตนาการจากวัยเด็กเริ่มฉายแวว เขาได้เริ่มต้นวาดภาพแนวอีโรติก แต่ก็ต้องเก็บซ่อนภาพเหล่านั้นไว้ และทำลายทิ้งเมื่อต้องพาตัวเองเข้าสู่กองทัพในช่วงสงครามโลก

ระหว่างที่ต้องสู้รบในสงคราม เขาค้นพบว่าขอบเขตของตัวเองนั้นไม่ได้มีเพียงแค่มัดกล้ามของแรงงานหนุ่มที่เขาจำได้ในวัยเด็ก หากแต่รวมไปถึงคนงานก่อสร้าง, กะลาสี, ตำรวจ รวมทั้งเพื่อนทหารด้วยกัน และในช่วงสงครามนี้เองที่ทำให้ Touko ได้ลิ้มรสของ Sex กับชายหนุ่มในเครื่องแบบที่เขานั้นหลงใหลอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทหารจากฝั่งเยอรมนี

Credit Photo: out.com
Credit Photo: widewalls.ch

หลังจากสงครามจบลง เขาออกจากกองทัพเพื่อกลับไปศึกษาต่อ และสานต่องานวาดภาพที่เขาตั้งใจว่า โดยผลงานของเขาในช่วงนี้ ถูกมองว่าเบามากและเน้นไปในเชิงโรแมนติกเมื่อเทียบกับผลงานต่อมาในภายหลัง

และด้วยแรงกระตุ้นจากเพื่อนสนิทของ Touku เอง ทำให้เขาตัดสินใจนำภาพวาดเหล่านี้ไปเสนอแก่นิตยสาร Physique Pictorial ที่เกี่ยวกับการเพาะกายใน America ในตอนนั้นเขาเซ็นชื่อในภาพว่า “Tom” แต่ทางสำนักพิมพ์ได้เพิ่มเครดิตต่อท้ายให้เป็น “Tom of Finland” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จในอาชีพของเขา ด้วยความสำเร็จที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ความต้องการในภาพวาดของเขามีสูงขึ้น นั่นทำให้เขาสามารถหาเงินจากตรงนี้ได้อย่างเต็มที่ เขาจึงลาออกจากงานทางด้าน Advertising และทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับงานวาดภาพของเขา

Credit Photo: attitude.co.uk

ในช่วงปลายยุค 70s ความโด่งดังของเขาทะยานพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยัง America เพื่อจัดงานแสดงภาพวาดที่เมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Los Angeles, San Francisco, และ New York เปลี่ยนชีวิตของเกย์ที่เขินอายจาก Finland สู่การเป็นคนดังไปในที่สุด แต่แล้วในเรื่องดีก็มีเรื่องร้ายเข้ามา เมื่อคนรักของเขาที่ชื่อ Veli เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งที่ลำคอ ในช่วงเดียวกับที่โรค AIDS แพร่ระบาดใน America

Credit Photo: widewalls.ch

ด้วยความสำเร็จที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาต้องไปกลับระหว่าง Finland และ America ทุก ๆ 6 เดือน จนกระทั่งในปี 1988 เขาป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพอง นั่นบังคับให้เขาต้องหยุดการเดินทาง แต่ก็ไม่มีอะไรขัดขวางการวาดภาพของเขาได้ และด้วยผลข้างเคียงของการรักษา ส่งผลต่อมือของเขาที่ทำให้เกิดอาการสั่น ทำให้เขาต้องเปลี่ยนการวาดภาพด้วยดินสอเป็นดินสอสีแทน จากนั้นอีก 3 ปีต่อมา Tom of Finland ได้จากโลกนี้ไป เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 1991 ด้วยวัย 71 ปี เหลือไว้เพียงซึ่งผลงานที่โดดเด่นและชื่อเสียงที่เป็นตำนาน

Credit Photo: dnamagazine.com.au

เกร็ดเพิ่มเติม
1. Tom of Finland นั้นมีมูลนิธิที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเผยแพร่และสนับสนุนผลงานภาพวาดทางด้านโฮโมอีโรติก ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 1984

2. และเพื่อเป็นเกียรติแก่ Tom of Finland ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ จึงได้มีการจัดทำชุดแสตมป์ออกแบบโดย Timo Berry ศิลปินกราฟิกชาว Finland เมื่อปี 2014

Credit Photo: widewalls.ch

ที่มา
1. https://www.widewalls.ch/artist/tom-of-finland/

2. https://www.tomoffinland.org/about-tom-of-finland/

3. https://www.attitude.co.uk/article/tom-of-finlands-partner-durk-dehner-reflects-on-the-late-artists-legacy-and-love-life-1/23221/

4. https://www.dnamagazine.com.au/tom-of-finland-turns-100-and-he-still-looks-amazing/

5. https://www.kookudesign.com/designer/54/tom-of-finland

6. https://www.dnamagazine.com.au/tom-of-finland-turns-100-and-he-still-looks-amazing/

7. https://www.out.com/movies/2017/4/25/tom-finland-almost-wasnt-financed-due-gay-stigma

ไม่มีความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้