องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศยกระดับ “COVID-19” เป็น “การระบาดใหญ่ระดับโลก”

           ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกคนปัจจุบัน ดร.เทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ได้ออกมาประกาศยกระดับการแพร่ระบาดของ“COVID-19″ เป็น “การระบาดใหญ่ระดับโลก” หรือ “Pandemic” แล้ว หลังจำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนยังพุ่งสูงถึง 13 เท่า ในช่วงเวลาเพียง 2 สัปดาห์ และคาดการณ์ไว้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้

            ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อ COVID-19 เกินกว่า 1 แสนคนแล้ว และเสียชีวิตเกือบ 5 พันคน โดยแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ของโลกไม่ว่าจะเป็นเอเชีย ยุโรป แอฟริกา ออสเตรเลีย อเมริกาเหนือและใต้ สำหรับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดรองจากประเทศจีนคือ ประเทศอิตาลีที่เกินกว่า 10,000 รายคน เสียชีวิตอีก 800 กว่าคน ส่วนนายกรัฐมนตรีของประเทศเยอรมนี นางอังเกลา แมร์เคิล ได้ออกมาประกาศเตือนก่อนหน้านี้ว่า อาจจะมีผู้ติเชื้อภายในประเทศประมาณร้อยละ 70 จากจำนวนประชากร 58 ล้านคน

ทางด้านประเทศสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกประกาศทางสถานีโทรทัศน์ มีคำสั่งห้ามผู้ที่เดินทางทั้งหมดจากยุโรปเข้าประเทศเป็นเวลา 30 วัน ยกเว้นประเทศอังกฤษ ขณะนี้ สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อ 1,322 ราย เสียชีวิต 38 ราย

            สำหรับในประเทศไทย ทางสธ.ได้ออกมาแถลงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11 ราย ซึ่งติดเชื้อภายในกลุ่มเดียวกัน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในไทยรวมทั้งหมดเป็น 70 คน เสียชีวิต 1 คน

หมายเหตุ
– สำหรับการระบาดของ COVID-19 นับเป็นการระบาดทั่วโลกต่อจากการระบาดของเชื้อไวรัส H1N1 เมื่อปี 2009

– Pandemic จากนิยามขององค์การอนามัยโลก มีเงื่อนไขอยู่สามอย่างคือ 1.) การเกิดขึ้นของโรคใหม่ในประชากร 2.) เกิดการติดเชื้อในร่างกายมนุษย์ และทำให้เกิดการเจ็บป่วยรุนแรง 3.) เชื้อโรคแพร่กระจายได้โดยง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างมนุษย์

– HIV/AIDS นับเป็น Pandemic เช่นเดียวกัน