
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ DudeAdam ขอสัมภาษณ์น้อง PP (นามสมมุติ) ตัวแทนของเด็กวัยรุ่นที่ทราบว่าตัวเองมีความเบี่ยงทางเพศมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ต้องปกปิดความรู้สึกนั้นไว้ ด้วยเหตุผลทางสังคมและครอบครัว ซึ่ง Dude เชื่อว่ากรณีนี้เป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับใครหลากหลายคน เอาเป็นว่าหากอ่านจบแล้ว มีความเห็นหรือกำลังใจอะไรที่จะมอบให้น้อง PP ก็สามารถคอนเม้นต์ได้เลยครับ
Dude : สวัสดีครับ ชื่ออะไรครับ
PP : พีพีครับ (ชื่อแฝง)
Dude : รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
PP : ตั้งแต่เด็กเลยครับ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แค่รู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่ผู้ชายแน่ๆ ครับ
Dude : มีเหตุการณ์ หรือ เหตุผลอะไรที่ทำให้เราแน่ใจมั้ยครับว่า เราไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป
PP : เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกครับที่มีกิจกรรมยามว่างคือการนำผ้าห่มมาทำเป็นชุดราตรี แล้วเดินแฟชั่นในคอนเซปต์ต่าง ๆ (หัวเราะ) แล้วตอนเด็กๆ ก็ชอบอะไรที่เป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายครับ เช่นการดูละคร การเต้นตามนักร้องที่เป็นผู้หญิง ซึ่งจริงๆ แล้วมีอีกหลายเหตุการณ์เลยครับ
Dude : แล้วเมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์แล้ว รู้สึกอย่างไร (ตอนแรกๆ) ต้องปกปิดมั้ย ทำไมถึงอยากปกปิด
PP : รู้สึกไม่อยากเป็นมากๆ ครับ…รู้สึกเกลียดตัวเองไปเลย ทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองมาเป็นผู้ชาย เสิร์จหาข้อมูลทุกอย่าง ผมกังวลและเครียดกับเรื่องนี้มาตลอด จนมันเป็นความเก็บกดที่อยู่ใต้ก้นบึ้งของจิตใจมาตลอด เพราะต้องปกปิดเรื่องนี้ แม้ว่าใครจะดูออกก็ตาม ซึ่งตอนนั้นพ่อแม่ผมไม่อยากให้เป็นครับ ผมไม่อยากทำให้พ่อแม่ผิดหวัง
Dude : ความกดดันที่เกิดขึ้น จากทั้งตัวเอง ครอบครัว สังคม (หากยกเหตุการณ์ได้ ก็เล่าประกอบได้ครับ)
PP : ความกดดันที่เกิดขึ้นอย่างแรกเลยคือจากตัวเองครับ ณ ช่วงเวลานั้นผมรับตัวเองไม่ได้เลย คิดตลอด นึกตลอดว่าทำไมเราต้องเกิดมาเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เป็นเพศปกติเหมือนผู้ฃายทั่วๆ ไป ตราหน้าตัวเองว่าเป็นลูกที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง กลัวพ่อแม่อายเวลาถูกสังคมของพ่อแม่ด้วยกันถามว่า “ลูกเธอเป็นตุ๊ดเหรอ” ช่วงเวลานั้นผมเครียดนะครับ เครียดไม่มากแต่สะสมมาตลอดหลายปีครับ
ส่วนความกดดันที่เกิดขึ้นจากสังคม จะมีในวัยเด็กครับ หากใครเป็นเพศที่สามจะโดนล้อบ่อยมาก โดนแกล้งบ้าง และไม่เป็นที่ยอมรับของพวกผู้ชายครับ เวลาครูให้ทำงานกลุ่มแยกชายหญิงหรือเวลาเรียนลูกเสือผมรู้สึกโดดเดี่ยวมากๆ เพราะหาเพื่อนยากมากครับ แต่พอโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ปัญหาจากสังคมผมมักไม่ค่อยเจอครับ
สุดท้ายความกดดันที่เกิดจากครอบครัว ผมคงไม่เรียกว่าความกดดันครับ เพราะผมเข้าใจพ่อแม่ที่ไม่อยากให้ผมเป็นเพศที่สาม เนื่องจากในสมัยนั้นสังคมยังไม่ยอมรับเท่าไรครับ พ่อและแม่ผมจึงไม่อยากให้ผมอยู่ในสภาวะนั้น ความกดดันที่เกิดขึ้นก็คือพ่อแม่ไม่อยากให้ผมเป็น รวมถึงไม่อยากให้ผมมีเพื่อนเป็นเพศที่สามครับ
Dude : ปกปิดความกดดันนี้มานานเท่าไหร่
PP : เกือบ 20 ปีครับ
Dude : พอทราบเรื่องทุกอย่างแล้ว พ่อแม่ยอมรับ หรือ เปล่า มีปัญหาอะไรกับทางครอบครัวมั้ยครับ
PP : ณ ตอนนี้พ่อแม่ผมยอมรับแล้วครับ ไม่มีปัญหาอะไรกับครอบครัวเลย รู้สึกสบายใจมาก ๆ ครรับที่ได้เป็นตัวของตัวเอง
Dude : เหตุผลที่ตัดสินใจบอกครอบครัว
PP : เพราะความเก็บกดต่าง ๆ ที่สะสมมานานมันเริ่มให้ผลครับ คือทำให้ผมเป็นโรคซึมเศร้า ในช่วงแรกผมอยากฆ่าตัวตายมาก ๆ เลยครับ จนผมคิดว่าผมทนไม่ไหวแล้วกับแรงกดดันนี้ จึงตัดสินใจบอกพ่อแม่ครับ
Dude : เล่าเหตุการณ์ตอนที่สารภาพกับครอบครัวได้มั้ยครับ ^^
PP : ตอนนั้นผมอยู่ที่มหาวิทยาลัยครับ ผมตัดสินใจโทรหาแม่แล้วบอกแม่ว่า ผมไม่ใช่ผู้ชายนะครับ ผมขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง แต่ผมฝืนมันไม่ได้แล้วจริงๆ พร้อมกับร้องไห้ คำตอบที่ออกจากปากแม่นั้นผิดกับที่ผมคาดไว้เลยครับ แม่ของผมตอบว่า “เป็นอะไรก็เป็นเถอะ ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีก็พอ เรื่องพวกนี้ไม่ต้องสนใจ ไม่มีท่าทีว่าจะต่อต้านใดๆ ครับ”
Dude : หลังจากสารภาพแล้ว เป็นอย่างไร ปฏิกิริยา คนอื่นๆ
PP : หลังจากที่ตัวเองและครอบครัวรับได้แล้ว ในระยะแรกผมก็บอกเพื่อนๆ ที่สนิทกันก่อนครับ หลังจากนั้นไม่นานผมก็แกรนด์โอเพนนิ่งเลยครับ 555555 ปฏิกิริยาของคนอื่นๆ ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทจะดูตกใจมากครับเพราะไม่คิดว่าผมเป็น
Dude : จากสเตตัสที่เราได้ตั้งและโพสต์ในวันนั้น ถ้าสามารถกลับไปแก้ไขอะไรในอดีตได้ 1 อย่าง อยากแก้ไขเรื่องอะไรมั้ย
PP : อยากกลับไปหาเพื่อนที่ผมทิ้งไปเพียงเพราะผมไม่อยากเป็นเพศที่สามครับ ถ้าย้อนกลับไปได้ผมจะไม่ทิ้งพวกเขาครับ เพราะพวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ ครับ
Dude : ให้กำลังใน เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในเพจ DudeAdam ที่อาจมีปัญหาคล้ายๆ เรา หน่อย PP : อยากบอกทุกคนว่า ชีวิตเรามันสั้นนักครับ คนเราฝืนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองได้ไม่นานหรอกครับ ถ้าใครเครียดกับเรื่องนี้เพราะบอกพ่อแม่ไม่ได้ หรือพ่อแม่ไม่ยอมรับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ในการพิสูจน์ตัวเองของเพื่อนๆ ทุกคนครับ ว่าแม้เป็นเพศที่สามก็ไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าใคร พิสูจน์ให้ท่านเห็นครับ
error: www.facebook.com/DudeAdamTH
เรื่องราวนี้เหมือนตัวผมเองเหมือนกันคับ แรกๆนี่คือเกลียดตัวเองมากๆ ร้องไห้หนักเพราะไม่อยากเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างก้อโอเค แต่ยังไม่ 100% ดีใจที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้คับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ